Digital Service
- 28 ก.ย. 64
-
1408
-
ธุรกิจจะยิ่งปัง หากให้ความสำคัญกับระบบบัญชี
ระบบบัญชีอาจไม่ใช่สิ่งแรก ๆ ที่คนทำธุรกิจหลายคนนึกถึง แต่ระบบบัญชีที่ดี สำคัญอย่างมากในการทำให้ธุรกิจเติบโตได้ ทั้งใช้ในการหาแหล่งเงินทุน และการช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ยิ่งในยุคที่มี e-Solution ต่าง ๆ มาช่วยเรื่องนี้
จัดการระบบบัญชีอย่างมีคุณภาพ สู่การเข้าถึงแหล่งเงินทุน
หนึ่งในกลไกสำคัญในการช่วยให้ SMEs เติบโต นั่นก็คือ
การเข้าถึงแหล่งเงินทุน แต่ในขณะเดียวกันเรื่องนี้ ก็กลายเป็นปัญหาสำหรับ SMEs อยู่ไม่น้อย เพราะไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ตามที่หวัง ด้วยปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของ
การจัดการระบบบัญชีที่มีคุณภาพ
ในงาน
Virtual Series EP.2 “The New Way of Finance: On Point, On Time, and Online งานบัญชีออนไลน์ ทางเลือกใหม่ ของ SMEs” ภายใต้โครงการ
e-Solution: Opportunity Enabler for SMEs โดยความร่วมมือระหว่าง
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ
Electronic Transactions Development Agency (ETDA) (เอ็ตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ
Techsauce เพื่อ Transform ธุรกิจ SMEs ให้พร้อมกับการทำงานยุคใหม่ ในกิจกรรม
Virtual Talk 1 : “Through Provider’s Lens: Assurance of Future Possibilities ได้รับเกียรติจาก
ชัยณรงค์ ฉัตรรัตนวารี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจดิจิทัล SME Bank ที่ผ่านประสบการณ์สนับสนุนเงินทุนและพัฒนาผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกิจการ SMEs ทั้งในภาคการผลิต ภาคการบริการ และภาคการค้าปลีกค้าส่ง แชร์ว่า
"SMEs หลายราย ประสบปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพราะขาดการเตรียมข้อมูลของธุรกิจให้พร้อมและเป็นระบบ"
ถ้าคุณใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยคุณจะได้อะไรมากกว่า
ชัยณรงค์ กล่าวว่า หากธุรกิจมีการดึงเทคโนโลยี เช่น ระบบบัญชีออนไลน์ มาช่วยในการจัดการข้อมูลหรือระบบบัญชี ก็ยิ่งจะทำให้ข้อมูลดูเป็นระบบมากขึ้น และส่งผลดีต่อการขอสินเชื่อ “ธุรกิจในปัจจุบัน ถ้าคุณใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยคุณจะได้อะไรมากกว่า”
นอกจากการจัดการข้อมูลธุรกิจอย่างเป็นระบบแล้ว ยังแนะนำให้ผู้ประกอบการสร้างวินัยทางการเงิน ศึกษาหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อของแต่ละธนาคารให้ละเอียด และดำเนินการขอสินเชื่อจากธนาคารมากกว่า 1 แห่ง เพื่อเพิ่มข้อต่อรองในการขอสินเชื่อ และลดความเสี่ยงของกิจการ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
หัวใจหลักในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs
ชัยณรงค์ ได้กล่าวเสริมถึง ‘หัวใจสำคัญในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME’ ซึ่งประกอบไปด้วย
- ความสามารถในการชำระหนี้ โดยมีตัวชี้วัดคือ หากธุรกิจเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา โดยเอารายได้ก่อนหักภาษี หารด้วยด้วยยอดที่จะต้องชำระต่อเดือน เพื่อหาอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ หรือ DSCR โดยจะต้องมีตัวเลข DSCR มากกว่าหรือเท่ากับ 1.25 ธนาคารจึงจะปล่อยสินเชื่อ
- วินัยทางการเงินของกิจการ ซึ่งธนาคารจะพิจารณาผู้ถือหุ้นหรือกรรมการในกิจการนั้นๆ จากประวัติ NCB หรือข้อมูลเครดิต
- ผลประกอบการของกิจการ ซึ่งจะต้องไม่ขาดทุนติดต่อกัน 3 ปี
- การเข้าสู่ระบบธุรกิจอย่างถูกกฎหมาย มีการจดทะเบียนและเข้าระบบการเสียภาษีอย่างถูกต้อง
การเตรียมตัวเข้าสู่แหล่งสินเชื่อของ SMEs ในอนาคต
เรื่องการใช้เทคโนโลยี e-Office หรือ e-Tool มาช่วยในการทำงาน ทางธนาคารก็จะมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการขอสินเชื่อเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในเรื่องงานเอกสาร และการจัดเก็บข้อมูล เพื่อให้การดำเนินการด้านสินเชื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ในอนาคตเราจะเริ่มเป็น Digital Lending หมายความว่าเราจะขอเอกสารท่านน้อยลง ประกอบกับการตรวจตัว e-KYC หรือ NDID เราจะใช้แพลตฟอร์มกลางของเรา อาจจะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อลดเวลา ลดขั้นตอนในการขอข้อมูลจากลูกค้า ก็จะช่วยให้การดำเนินการขอสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเร็วขึ้น”
ในการปรับตัวสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ในการเข้าสู่แหล่งสินเชื่อในอนาคต ชัยณรงค์ ยังได้เน้นถึงปัจจัยสำคัญในการดึงเทคโนโลยีมาใช้ปรับการบริหารจัดการและดำเนินธุรกิจ อาทิ ซอฟต์แวร์บัญชี เพื่อสร้าง Digital Transaction และแนะนำให้ผู้ประกอบการเริ่มวางแผนการเงินการบัญชีด้วยตัวเอง เพื่อจะได้ทราบจำนวนตัวเลขที่เป็นข้อเท็จจริง ทั้งผลกำไรและขาดทุน ตัวเลขภาษี รู้แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจตัวเอง ซึ่งการที่ผู้ประกอบการมีข้อมูลส่วนนี้ในมือ จะช่วยให้การขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินง่ายขึ้น
ในส่วนของ SME Bank จะมีการสนับสนุนผู้ประกอบการในส่วนของ e-Tool ที่จะเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจ ในรูปแบบ SME Tool Box ที่รวบรวมเครื่องมือและแพลตฟอร์มจากผู้ให้บริการที่ทำ MOU กับทางธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำบัญชี, การจัดการสินค้า, ระบบบริหารงานบุคคล, ระบบบริหารลูกค้าสัมพันธ์,ระบบการขนส่ง ฯลฯ ให้ผู้ประกอบการทดลองใช้ฟรีได้ด้วย
ระบบบัญชีออนไลน์ จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้ยังไง
สำหรับกิจกรรม Exclusive Workshop The New Way of Finance: On Point, On Time, and Online งานบัญชีออนไลน์ ทางเลือกใหม่ ของ SMEs ในงานเดียวกัน โดย ภีม เพชรเกตุ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร Peak บริษัทผู้ให้บริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์และบริการบัญชีครบวงจร ได้บอกว่า
โปรแกรมบัญชีออนไลน์นั้น ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงาน และช่วยลดขั้นตอน ทำให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดเวลาได้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่าช่วยให้กิจการลดต้นทุนค่าเอกสารได้จำนวนมาก และยังช่วยลดภาระที่บริษัทแบกรับในหลายส่วนอีกด้วย
ระบบยังช่วยลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะการทำบัญชีเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความละเอียด และแม่นยำ การใช้ระบบบัญชีออนไลน์ที่มีเทคโนโลยี AI คอยช่วยเหลือ จะช่วยป้องกันความผิดพลาดได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณภาษี, การคำนวณค่าใช้จ่าย, การกระทบยอดธนาคาร (การพิสูจน์ยอดเงินฝากธนาคาร ว่ายอดที่บันทึกในบัญชีและยอดเงินฝากในธนาคารตรงกันหรือไม่) หรือ การจัดการงบกระแสเงินสด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการทำธุรกิจ โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการ SMEs
ระบบบัญชีที่ดีช่วยให้ธุรกิจเติบโต
“ระบบบัญชี ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถได้ข้อมูลบัญชีที่ดี และจัดการธุรกิจของตัวเองได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งการทำบัญชีที่ดีเป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถที่จะเติบโตได้ เพราะสามารถนำข้อมูลมาใช้ประกอบการตัดสินใจ ธุรกิจที่มีข้อมูล ใช้ข้อมูล และตัดสินใจจากข้อมูล จะมีการตัดสินใจที่แม่นยำกว่า”
ภีม ได้แบ่งปันมุมมอง และประโยชน์สำคัญของการพัฒนาระบบบัญชี ที่มากกว่าแค่ช่วยลดภาระ โดยมองว่า การที่ธุรกิจมีระบบบัญชีที่ดีและเป็นระบบนั้น ถือเป็นเครื่องมือต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องดิ้นรนมากกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากทำให้การตัดสินใจตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นระบบแล้ว การเปลี่ยนมาใช้ระบบบัญชีออนไลน์ ถือเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานที่ช่วยให้ผู้ประกอบการไม่ต้องมาพะวงหรือกังวลเกี่ยวกับเรื่องระบบบัญชีของบริษัท และสามารถใช้เวลาไปกับการดูแลงานส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญของธุรกิจได้ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์การตลาด, งานบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ฯลฯ
ตอบโจทย์การทำงานยุค New Normal แต่เทคโนโลยีจะเชื่อถือได้แค่ไหน
แน่นอนว่าจากสถานการณ์ COVID-19 และการเปลี่ยนวิธีการทำงานไปสู่รูปแบบดิจิทัล ทำให้ทุกภาคธุรกิจต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานเป็น Work From Home ซึ่งการใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่มี Cloud Technology จะทำให้พนักงานทุกคนสามารถเข้ามาทำงานพร้อมกันได้ เข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่และทุกอุปกรณ์ เพราะข้อมูลทั้งหมดเชื่อมโยงถึงกันตลอดเวลา
ในแง่ของความน่าเชื่อถือของโปรแกรมระบบบัญชี ภีม เผยว่าเคยได้ยินคำถามมามากมายเกี่ยวกับความฉลาดของระบบ ซึ่งก็ยอมรับว่าปัจจุบันยังคงอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา และระบบเองอาจจะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่หากใช้งานไปเรื่อย ๆ ระบบก็จะพัฒนาตัวเองตามส่วนในประเด็นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลนั้น ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ภีม ย้ำว่าระบบที่พัฒนาขึ้นมา มีระดับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก โดยเขาใช้วิธีการเก็บข้อมูลและประมวลผลกับ Microsoft Azure ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ได้รับความไว้วางใจในระดับสากล อีกทั้งในระบบโปรแกรมบัญชีก็จะมีการสำรองข้อมูลขณะทำงาน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องข้อมูลสูญหาย และยังมีระบบการยืนยันตัวตนแบบสองชั้นจึงจะเข้าถึงข้อมูลได้ ซึ่งจากตรงนี้ก็เห็นได้ชัดว่า มีความมั่นคงปลอดภัยมากกว่าการใช้กระดาษในปัจจุบันมาก
และห้ามพลาดเวทีครั้งต่อไปของเราในวันที่ 30 กันยายน 2564 นี้แล้ว กับ โครงการ e-Solution Opportunity Enabler for SMEs จัดงาน Virtual Series EP.3 ในหัวข้อ CRM for SMEs: Boost Your Customers’ Experience, Boost Your Business
ครั้งนี้ SMEs จะได้รับการแชร์ความรู้ แลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นร่วมกัน จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และ Service Provider ถึงแนวทางในการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ของธุรกิจ ให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเป็นระบบ
ไม่อยากพลาด โดยเฉพาะช่วงเวิร์กชอปที่รับเพียง 100 ท่าน ลงทะเบียนเข้าร่วมเลยที่ https://forms.gle/gtZCzSzfuPiKbB1S7
ระบบบัญชีที่ดี สำคัญอย่างมากในการทำให้ธุรกิจเติบโตได้ ยิ่งในยุคที่มี e-Solution ต่าง ๆ มาช่วยเรื่องนี้