Digital Citizen
- 25 พ.ย. 62
-
74590
-
โพสต์ “เกรียน” เสี่ยงติดคุก “คิด ก่อน คลิก”
การท่องโลกออนไลน์ ทำให้เราพบเจอข่าวสารเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย หลายเรื่องก็กระตุกต่อมคิด หลายเรื่องก็กระตุกต่อมให้อยากรู้ต่อ หรือทำให้อดไม่ได้ที่จะกระโดดเข้าไปมีส่วนร่วม เราสามารถแชร์หรือส่งต่อข่าวสารข้อมูลนั้นออกไป เพราะอยากให้คนอื่น ๆ รู้ด้วย บางครั้งเราดาวน์โหลดภาพหรือคลิปวิดีโอมาเก็บไว้ หลายครั้งที่เราเข้าร่วมวงสนทนาออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวอย่างออกรสประหนึ่งว่าเราเป็นผู้ร่วมประสบเหตุ เป็นญาติ หรือแม้แต่เป็นผู้เสียหายเอง โดยขาดความตระหนักว่าการแชร์ การแท็ก การโพสต์แสดงความคิดเห็นนั้นจะมีผลต่อใคร อย่างไรต่อไป
โลกออนไลน์เป็นโลกที่จะแสดงความคิดเห็น โพสต์หรือส่งต่อข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ แต่ความเป็นอิสระนี้ก็ใช่ว่าจะไร้กรอบกติกา เนื่องจากคนบนโลกออนไลน์นั้น มีตัวตนอยู่จริง เป็นคนเหมือน ๆ กัน ที่มีความคิด ความเชื่อ ความรู้สึก ที่อาจจะเหมือนเรา คล้ายเรา หรือแตกต่างจากเรา
การโพสต์โดยไม่คิดไตร่ตรอง อาจส่งผลให้เขาได้รับผลกระทบจากเนื้อหาเรื่องราว ข้อคิดเห็น หรือคำด่าทอเสียดสีต่าง ๆ จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของผู้โพสต์ ผู้แชร์ หรือผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือคอมเมนต์ก็ตาม
นอกจากนี้ การโพสต์หรือส่งต่อข้อมูลข่าวสารบางอย่างนั้นผิดกฎหมาย เช่น สื่อลามกอนาจาร การพนัน ข่าวปลอม หมิ่นประมาท เนื้อหาข้อมูลเท็จที่กระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม หรือความมั่นคงปลอดภัย แม้แต่การโฆษณาขายสินค้าที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ผู้คนในวงกว้าง ฯลฯ
พ.ร.บ.คอมฯ กลไกดูแลความมั่นคงปลอดภัยบนโลกไซเบอร์
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือที่เราเรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นั้นเป็นกฎหมายหลักที่ใช้กำกับดูแลการกระทำบนโลกออนไลน์ แม้จะเป็นเรื่องเข้าใจยากและต้องอาศัยการตีความทางกฎหมาย แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ใช้ทุกคนจะต้องศึกษาทำความเข้าใจ เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองกระทำผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ทำให้เราพ้นผิดหรือได้รับการละเว้นโทษ
การส่งอีเมลหรือข้อความโฆษณาขายสินค้าไปให้คนจำนวนมาก ๆ การฝากร้านขายของในอินสตาแกรม การส่งข้อความลูกโซ่ ตัวอย่าง เช่น ให้อ่านคำสวดอธิษฐานตามนี้ดัง ๆ 10 รอบแล้วแชร์ไปให้เพื่อนอีก 10 คน แล้วคุณจะโชคดี เหล่านี้ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชนและทำให้เกิดเนื้อหาขยะ ที่ไม่เป็นประโยชน์มากมายบนเครือข่าย เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 111 ตาม พ.ร.บ.คอม มีโทษปรับไม่เกิน 1-2 แสนบาท
การโพสต์ด้วยคึกคะนองว่าตนเป็นคนวางระเบิดหน้าห้างสรรพสินค้า ปล่อยข่าวดาวหางกำลังจะพุ่งชนโลก เขื่อนกำลังจะแตก หุ้นตัวนั้นจะขึ้นตัวนี้จะลงให้รีบวางแผนทำกำไร โรงไฟฟ้าปิดซ่อมบำรุงจะทำให้ไฟดับทั้งเมือง ใช้สบู่เหลวทำให้ตายเร็วกว่าสบู่ก้อน ฯลฯ ถ้าไม่เป็นความจริงก็เข้าข่ายการส่งข้อมูลข่าวสารปลอมหรือบิดเบือนข้อมูลเท็จ ที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เสียหาย กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน ความมั่นคงของประเทศ การก่อการร้าย หรือการโพสต์ข้อมูลที่มีลักษณะลามกอนาจารที่ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ เหล่านี้มีความผิดตามมาตรา 142 วงเล็บ 1-4 ของ พ.ร.บ.คอม มีโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
การตัดต่อ แต่งเติม หรือดัดแปลงภาพ ที่ทำให้คนอื่นเสียหาย อับอาย ถูกดูถูกดูหมิ่น ถูกเกลียด มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท แม้กระทำการดังกล่าวกับคนที่ตายไปแล้ว พ.ร.บ.คอม มาตรา 163 นี้ ก็ให้พ่อ แม่ คู่สมรส หรือลูกของผู้ตาย ซึ่งได้รับความเสียหายอับอายต่างๆ ร้องทุกข์แทนได้
กฎหมายอื่น ๆ ที่ร่วมดูแล
นอกจาก พ.ร.บ.คอม แล้ว ยังมีกฎหมายอื่น ๆ ที่กำกับดูแลโลกออนไลน์อยู่ด้วย เช่น ประมวลกฎหมายอาญา หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ทำให้การกระทำหลายอย่างเป็นความผิดตามกฎหมายด้วย เช่น
- การเขียนข้อความด่า ประจาน ทำให้คนอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยข้อมูลที่โพสต์นั้นปรากฏชื่อ รูปภาพ หรือข้อมูลส่วนตัวที่ทำให้รู้ว่าคนที่ถูกพาดพิงนั้นเป็นใคร มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 328 มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
- การครอบครองหรือส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็ก มีความผิดตามกฎหมายอาญา โดยการครอบครองมีโทษจำคุกสุดสุด 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากส่งต่อมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การเผยแพร่สื่อลามกอนาจารทางออนไลน์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอม มาตรา 14 (4) ด้วย
- การลงรูปภาพเด็กหรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวเด็ก ทำให้เด็กได้รับความเสียหายทั้งทางจิตใจ ชื่อเสียง หรือโพสต์เพื่อประโยชน์ของตัวเอง มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก มาตรา 27 มีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การกระทำด้วยเหตุจูงใจเดียวอาจกระทำความผิดหลายกฎหมายหลายมาตราได้ เช่น เกรียนคีย์บอร์ดโกรธเพื่อนด้วยเรื่องส่วนตัว จึงแอบเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์และอีเมลของเพื่อน ลบข้อมูลที่สำคัญไปหลายอย่าง ทั้งยังส่งอีเมลในนามของเพื่อนไปหาเจ้านาย โดยแนบภาพตัดต่อของเจ้านายให้ดูตลกขบขัน พูดถึงเจ้านายในทางเสียหาย ปล่อยข่าวว่าเจ้านายคนนี้ทุจริต ทำให้บริษัทล้มละลาย จะต้องเลิกจ้างพนักงานหลายพันคน กรณีนี้ มีการกระทำความผิดตามมาตรา 5, 6, 7, 14, 16 ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทั้งหมิ่นประมาทในที่สาธารณะ ตามกฎหมายอาญามาตรา 328 ด้วย
ดังนั้น ก่อนจะโพสต์หรือส่งต่อข้อมูลใด ๆ ให้คิดให้หนัก หรือหากเป็นการแชร์ของคนอื่นก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจเสียก่อนว่าเป็นข้อมูลความจริงหรือไม่ กระทบหรือไปละเมิดสิทธิคนอื่น ทำให้เขาเสียหายหรือไม่ มีความเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายใดหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายเป็นความผิดหรือไม่แน่ใจ ให้งดโพสต์หรือส่งต่อข้อมูลนั้น ๆ ดีกว่า
ดาวน์โหลด พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)
เชิงอรรถ
1 มาตรา 11 “ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท”
“ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นอันมีลักษณะเป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้โดยง่าย ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
โดยรัฐมนตรีออกประกาศกําหนดลักษณะและวิธีการส่ง รวมทั้งลักษณะและปริมาณของ ข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งไม่เป็นการก่อให้เกิดความเดือดร้อนรําคาญแก่ผู้รับ และลักษณะอันเป็นการบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้โดยง่าย”
2 มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิด ความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) ถ้าการกระทําความผิดตามวรรคหนึ่ง (1) มิได้กระทําต่อประชาชน แต่เป็นการกระทําต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง ผู้กระทํา ผู้เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความได้”
3 มาตรา 16 ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลง ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทําให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทําต่อภาพของผู้ตาย และการกระทํานั้นน่าจะทําให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ผู้กระทําต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง เป็นการนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยสุจริตอันเป็น การติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทํา ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งและวรรคสองเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย”
คิดก่อนคลิก ดีกว่า คลิกแล้วค่อยมาคิด