Cybersecurity
- 06 เม.ย. 66
-
4434
-
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของเรารั่วไหล❗️ เราจะรับมือแล้วป้องกันอย่างไร❓
วันนี้ ETDA ขอเสนอแนวทางป้องกันกรณีข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล! ที่คัดพิเศษมาให้สำหรับคนทั่วไป และหน่วยงานที่ทำการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ? ตามไปดูกันได้เลย
แนวทางป้องกันตัวเองจากผู้ไม่หวังดี ที่อาจจะแอบใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเราที่รั่วไหล
1. หยุด
โอนเงิน ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลสำคัญ กับบุคคลที่ไม่รู้จัก ที่ติดต่อเรา มาทาง อีเมล SMS หรือโทรศัพท์
เพราะผู้ไม่หวังดีอาจปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ติดต่อมาหาเรา และใช้ข้อมูลที่รั่วไหล สร้างความน่าเชื่อในการพูดคุยกับเรา
2. คิดก่อนคลิก
หลีกเลี่ยงการเปิดลิงก์หรือไฟล์แนบ จากอีเมลหรือ SMS ที่ไม่รู้จัก
เพราะผู้ไม่หวังดี อาจส่งลิงก์หรือไฟล์แนบ มายังอีเมลหรือ SMS และหวังให้เราหลงกล กดคลิกติดตั้ง malware เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญของเราไปใช้ทำธุรกรรมการเงินต่อได้
ดังนั้น เมื่อได้รับการติดต่อจากคนที่เราไม่รู้จัก หรือ ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวจริง
โปรด!!! หยุด โอนเงิน ให้ข้อมูล หรือคลิกลิงก์
แล้วใช้เวลาสักนิด ตรวจเช็คข้อมูลกับหน่วยงานก่อน
(ควรตรวจสอบผ่านช่องทางการติดต่อทางการของหน่วยงานนั้นๆ เช่น เบอร์โทรศัพท์ ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์หน่วยงาน เป็นต้น)
แล้วเราจะป้องกันตัวเอง ได้อย่างไรก่อน
- เปิดใช้ “วิธีการยืนยันตัวแบบหลายปัจจัย” กับบริการสำคัญ (ถ้ามี) นอกเหนือจากการใช้ Password หรือ PIN เพียงอย่างเดียว เช่น OTP เพื่อให้มั่นใจว่าเราที่เป็นตัวจริงเท่านั้น เข้าใช้งานได้
- เปิดใช้งาน “ระงับบัญชี (Account) ชั่วคราว” (ถ้ามี) เมื่อไม่ได้ใช้งานบัญชีหรือ Account ในขณะนั้น เพื่อป้องกันการเข้ามาทำธุรกรรมของผู้ไม่หวังดี
- หมั่นตรวจสอบประวัติการเข้าใช้งาน (Log in) บัญชีออนไลน์หรือแอปพลิเคชันต่างๆ หากพบว่ามีการใช้งานจากอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก หรือไม่ใช่ของเรา ควรรีบลงชื่อออก (Log out) และเปลี่ยน Password ทันที
- หมั่นตรวจสอบข้อมูลหรือประวัติการทำธุรกรรมทางการเงินว่า มีการโอนเงินเข้าออกที่ผิดปกติหรือไม่ หากผิดปกติให้รีบติดต่อธนาคาร โดยเร็ว
- เมื่อข้อมูลรั่วไหล ให้แจ้งธนาคารทราบว่าข้อมูลสำคัญของเราได้รั่วไหล เพื่อธนาคารจะได้เพิ่มกลไกตรวจสอบตัวตนของเรา หรือให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับเราต่อไป
เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการของเรารั่วไหล จากหน่วยงานอื่น❗
และเราเป็นหน่วยงานที่ให้บริการ e-Service และให้ผู้ใช้บริการของเราใช้ Digital ID ที่เราออกให้ (เช่น บัญชีผู้ใช้งาน (User Account)) เข้าถึงบริการออนไลน์ของเราได้
เราจะรับมือแล้วป้องกันอย่างไร❓
วันนี้ ETDA ขอเสนอแนวทางป้องกันสำหรับหน่วยงานที่ทำการพิสูจน์และยืนยันตัวตน ดังนี้
การป้องกันในขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตน (identity proofing)
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดี ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่รั่วไหล มาสวมรอยเป็นบุคคลอื่น ในขั้นตอนการพิสูจน์ตัวตน ทั้งที่ไม่ใช่ตัวจริง
1. หน่วยงานควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของบุคคลกับหน่วยงานที่ออกหลักฐานแสดงตน เช่น ตรวจสอบข้อมูลโดยใช้เครื่องอ่านบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลจากชิป
2. หน่วยงานควรหลีกเลี่ยงการพิสูจน์ตัวตน โดยใช้แค่การตรวจสอบข้อมูลหน้าบัตรประชาชนและหมายเลขหลังบัตรประจำตัวประชาชน (laser code) เท่านั้น
การป้องกันในขั้นตอนการยืนยันตัวตน (authentication)
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดี สวมรอยใช้ Digital ID หรือบัญชีผู้ใช้งาน (User Account) ของเรา เข้าถึงบริการออนไลน์ของเราได้
3. หน่วยงานควรใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (Multi-Factor Authentication) ซึ่งมีการใช้ปัจจัยของการยืนยันตัวตน (authentication factor) ที่แตกต่างกันมากกว่าหนึ่งปัจจัย เช่น
- การกรอกรหัสผ่าน (ซึ่งเป็นปัจจัยประเภทสิ่งที่คุณรู้) ร่วมกับรหัส OTP ที่ส่งมายังโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการ (ซึ่งเป็นปัจจัยประเภทสิ่งที่คุณมี) หรือ
- การเปรียบเทียบชีวมิติ (biometrics) ของผู้ใช้บริการ (ซึ่งเป็นปัจจัยประเภทสิ่งที่คุณเป็น) และเรียกใช้กุญแจเข้ารหัสที่อยู่ในแอปพลิเคชัน (ซึ่งเป็นปัจจัยประเภทสิ่งที่คุณมี) เพื่อนำมากุญแจเข้ารหัสมาใช้ยืนยันตัวตน (cryptographic software)