ETC
- 30 ก.ย. 59
-
1272
-
กระทรวงไอซีทีจัดประชุมชี้แจงเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงานที่มีรายชื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ต้องกระทำตามวิธีการแบบปลอดภัย ตามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
สำนักงานคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับคณะอนุกรรมการความมั่นคงปลอดภัย ในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ จัดประชุมชี้แจงเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงานที่มีรายชื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ต้องกระทำตามวิธีการแบบปลอดภัย ตามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง รายชื่อหน่วยงานหรือองค์กร หรือส่วนงานของหน่วยงานหรือองค์กรที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสําคัญของประเทศซึ่งต้องกระทําตามวิธีการแบบปลอดภัยในระดับเคร่งครัด พ.ศ. 2559 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดี-รังสิต กรุงเทพฯ โดยมีนาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมฯ พร้อมทั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และอนุกรรมการความมั่นคงปลอดภัยในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงวิทยากรด้านความมั่นคงปลอดภัยจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้เกียรติเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ โดยมีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานจำนวน 307 คน
การจัดประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับหน่วยงาน องค์กร หรือส่วนงานของหน่วยงานหรือองค์กรที่มีรายชื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ต้องกระทำตามวิธีการแบบปลอดภัย ตามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้หน่วยงานนำความรู้ที่ได้ไปเป็นแนวทางในการดำเนินการจัดทำมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศตามวิธีแบบปลอดภัยในระดับเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินการ ของทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างแพร่หลาย ด้วยเหตุนี้ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จึงได้ผลักดันและส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของทรัพย์สินสารสนเทศในการทำธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีการยอมรับและเชื่อมั่นในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น ประกอบกับมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ได้บัญญัติให้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ใด ที่ได้กระทำตามวิธีการแบบปลอดภัยที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาแล้ว ให้สันนิษฐานว่าเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้
ดังนั้น หากหน่วยงานได้ปฏิบัติตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยวิธีการแบบปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2553 จะเป็นประโยชน์กับหน่วยงานในการดำเนินการจัดทำมาตรฐานการรักษา ความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศตามวิธีการแบบปลอดภัยเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งาน ตลอดจนทำให้มีการยอมรับและเชื่อมั่นในข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการผลักดันให้มีการบริหารจัดการและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของทรัพย์สินสารสนเทศในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงาน องค์กร หรือส่วนงานของหน่วยงานหรือองค์กรนั้น ที่มีผลเกี่ยวเนื่องสำคัญต่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยของประเทศหรือสาธารณชน คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จึงได้มีการประกาศรายชื่อหน่วยงานหรือองค์กรที่ถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศซึ่งต้องกระทำตามวิธีการแบบปลอดภัยในระดับเคร่งครัด พ.ศ. 2559 และได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2559 โดยจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 360 วันนับแต่วันประกาศฯ ซึ่งถือว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและประชาชนในการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป