Digital Platform Service

• 31 ต.ค. 66
• 351
• Share

  • 
  • 
  • 

ETDA ร่วมกับกระทรวงดีอี หารือร่วม ‘ผู้แทนทางการทูตไทย’ แจงกฎหมาย DPS กระตุ้นแพลตฟอร์มต่างชาติแจ้งข้อมูล

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) หารือร่วมกับ ผู้แทนทางการทูตของไทย กว่า 10 ประเทศ เพื่อทำความเข้าใจถึงสาระสำคัญและขอบเขตของกฎหมาย DPS สู่การร่วมผลักดันให้ธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติ รีบเข้ามาแจ้งข้อมูลการประกอบธุรกิจ ก่อนหมดเขต 18 พ.ย. 66 นี้

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (รมว.ดีอี) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (30 ตุลาคม 66) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย ETDA ได้จัดประชุมหารือผู้แทนทางการทูตของไทย เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย DPS (Digital Platform Service) ทั้งในมุมของการจดแจ้งตามกฎหมายของธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่รวมถึงแพลตฟอร์มที่เป็นของต่างประเทศ แต่ผู้ใช้บริการอยู่ในประเทศไทย เช่น Matketplace, Sharing Economy, Social Media เป็นต้น ซึ่งจะต้องมีการแจ้งการประกอบธุรกิจมายัง ETDA ภายในวันที่ 18 พ.ย. 66 นี้ โดยรายชื่อของธุรกิจบริการฯ ที่ได้แจ้งปัจจุบันมี 205 แพลตฟอร์ม เป็นแพลตฟอร์มที่ประกอบธุรกิจอยู่ในประเทศไทยและส่วนหนึ่งมาจากต่างประเทศ ทำให้ต้องมีการหารือในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการทำความเข้าใจกับภาคเอกชน และแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องที่ประกอบธุรกิจในต่างประเทศ ตลอดจนนำไปสู่การผลักดันในเวทีระหว่างประเทศต่อไป

ปัจจุบัน ETDA มีประเด็นข้อร้องเรียนจำนวนมาก ในปี 66 มีผู้ร้องเรียนกว่า 6 หมื่นกรณี ส่วนใหญ่เกิดจากแพลตฟอร์ม เช่น การโฆษณาเกินจริง การหลอกให้โอนเงินที่ทำให้ยากต่อการติดตาม เป็นต้น การประสานไปยังแพลตฟอร์มยังพบปัญหาบางประการ ทำให้กฎหมายฉบับนี้จึงเกิดขึัน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเข้ามาช่วยแก้ปัญหา สำหรับกรณีแพลตฟอร์มต่างประเทศ จะต้องตั้งผู้แทนประสานงานในประเทศไทย เพื่อให้เกิดช่องทางในการติดต่อประสานงานที่ชัดเจน ซึ่งหากแพลตฟอร์มที่เข้าข่าย และไม่ดำเนินการแจ้งภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีโทษทางปกครอง จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

โดยผู้ประกอบธุรกิจที่อยู่ต่างประเทศและให้บริการแก่ผู้ใช้บริการในไทย มีลักษณะที่สำคัญหากเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มตามกฎหมาย คือ 1. แสดงผลเป็นภาษาไทย 2. จดทะเบียนชื่อโดเมน “.th” หรือ “.ไทย” 3. มีการกำหนดให้เลือกชำระเงินเป็นเงินบาท 4. มีการใช้กฎหมายไทยในการทำธุรกรรม 5. มีการจ่ายค่าสตอบแทนแก่ Search Engine เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บริการในไทยเข้าถึงบริการ 6. มีการจัดตั้งสำนักงาน หน่วยงานหรือมีบุคคลเพื่อสนับสนุนช่วยผู้ใช้บริการในไทย

การแต่งตั้งผู้ประสานงานในไทย หรือ Point of Contact เพื่อประโยชน์ในการแจ้งการประกอบธุรกิจ และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในการประกอบธุรกิจ โดยต้องมีการแต่งตั้งเป็นลายลักษณ์อักษรและต้องอยู่ในราชอาณาจักร และไม่ได้กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดตั้งธุรกิจในไทย โดยผู้ประสานงานอาจจะแต่งตั้งจากสำนักงานกฎหมายก็ได้ โดยหน้าที่หลักคือการแจ้งข้อมูล และการรายงานประจำปี

จากการหารือเบื้องต้น ผู้แทนทางการทูตของไทยก็ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และประเด็นซักถามเพื่อทำความเข้าใจทั้งในด้านการช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามกฎหมาย ซึ่งในการดำเนินงานสื่อสารกับหน่วยงานในต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง จะมีทั้งฝั่งหน่วยงานรัฐ และเอกชน เช่น กรณีฝั่งยุโรป จะมีหน่วยงานที่ดูแลกฎหมาย DSA (Digital Service Act) ซึ่งเป็นกฎหมายมีความใกล้เคียงกับกฎหมาย DPS ของไทย ดังนั้น การมีช่องทางในการสื่อสารผ่านหน่วยงานต่างๆ ของต่างประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการส่งข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจ และสามารถนัดหมายเพื่อประชุมหารือร่วมกับทาง ETDA ได้หากมีประเด็นสงสัยเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของแนวทางการดำเนินงาน กรณีการปฏิเสธความรับผิดชอบของแพลตฟอร์มหากเกิดปัญหาจากการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ ทาง ETDA และทางกระทรวงดีอี ได้มีการหารือร่วมกับแพลตฟอร์มรายใหญ่ๆ มาอย่างต่อเนื่องในการทำความเข้าใจ และกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน รวมถึงการเตรียมยกระดับการดำเนินงานในระยะยาว

การดำเนินงานในระยะต่อไปทาง ETDA จะมีการจัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนกับทางผู้แทนทางการทูต ซึ่งจากการหารือร่วมกันแสดงให้เห็นถึงทิศทางการร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อเร่งสื่อสารให้ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลซึ่งอยู่นอกราชอาณาจักรไทย ให้เร่งดำเนินการเข้ามาแจ้งข้อมูลการประกอบธุรกิจกับ ETDA  เพื่อให้การดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลของไทยมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
หากสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามหรือขอคำแนะนำกับทาง ETDA ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-123-1234 (ติดต่อทีมกำกับดูแลกฎหมาย DPS) ในวัน และเวลาราชการ (9.00-17.00 น.)