e-Commerce
- 18 ก.พ. 64
-
16702
-
3 ทางเลือกรับพัสดุ เอาใจขาชอปออนไลน์ ได้ของครบ ไม่ตกหล่น
ขาชอปหลายคนต้องเคยเจอปัญหาซื้อของออนไลน์ทีไร เวลาของมาส่ง มักเป็นช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน แถมใบแจ้งให้ไปรับที่ไปรษณีย์อาจปลิวหาย จนทำให้พัสดุนำจ่ายไม่สำเร็จและถูกตีกลับไปยังผู้ส่ง หลายคนเลยแก้ปัญหาโดยฝากให้พี่ ๆ ผู้ให้บริการ นำพัสดุไปส่งให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงหรือคนอื่นที่เรารู้จักในละแวกนั้นแทน แต่วิธีนี้ก็อาจทำให้เราหลงลืมไปว่า ได้ฝากพัสดุไว้กับใครบ้าง หรือแม้แต่ของเกิดสูญหายหลังเซ็นรับไปแล้ว
วันนี้ ETDA จึงได้รวบรวมบริการที่จะช่วยแก้ปัญหากวนใจแบบนี้ ซึ่งในปัจจุบัน ผู้ให้บริการในห่วงโซ่อุปทานอีคอมเมิร์ซ (e-Commerce Supply Chain) หลายราย ได้เร่งพัฒนาบริการต่าง ๆ ในการรับส่งพัสดุ เพื่อช่วยอุดรอยรั่วของปัญหาการซื้อขายออนไลน์ให้เป็นไปอย่างราบรื่น ครบวงจร ตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น
“แล้วชั้นเลือกอะไรได้ไหม” มาดูกันดีกว่า ว่ามีทางเลือกแบบไหน จากผู้ให้บริการรายใด ที่จะเข้ามาช่วยขาชอปทั้งหลาย จัดการปัญหากวนใจที่เกิดขึ้นนี้ได้
บริการรับพัสดุ ณ สาขาที่ทำการ
ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าพัสดุจะมาถึงบ้าน ในช่วงระหว่างวันที่ไม่มีผู้รับ สามารถเลือกใช้บริการเข้ารับพัสดุ ณ สาขาที่ทำการของผู้ให้บริการขนส่งได้ โดยระบุที่อยู่ผู้รับเป็นชื่อสาขาของผู้ให้บริการนั้น ๆ แทนที่อยู่จริง เพื่อป้องกันไม่ให้พัสดุถูกตีกลับเมื่อการจัดส่งไม่สำเร็จ อีกทั้งเรายังเข้าไปรับพัสดุเมื่อไรก็ได้ เมื่อของมาถึงตามวันและเวลาที่เราสะดวก แต่ต้องไม่เกินกำหนดระยะเวลาที่แต่ละผู้ให้บริการได้กำหนดไว้
ตัวอย่าง ผู้ให้บริการรับพัสดุ ณ สาขาที่ทำการ
1. บริการรอจ่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ จาก ไปรษณีย์ไทย – บริการที่เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถกำหนดรับพัสดุที่สาขาไปรษณีย์ใกล้บ้าน หรือสาขาที่สะดวกรับของได้ โดยที่ไปรษณีย์ในแต่ละสาขาจะทำการเก็บพัสดุไว้ให้เป็นเวลานานถึง 1 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนานพอสมควรก่อนที่พัสดุของเราจะทำการตีกลับไปยังผู้ส่งสินค้า และที่สำคัญบริการนี้ไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแต่อย่างใด
สำหรับผู้ที่สนใจบริการระบบรอจ่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ สามารถใช้บริการได้ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียง ระบุข้อมูลผู้รับหน้าซอง/พัสดุ เป็น ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับ จากนั้นในส่วนของข้อมูลที่อยู่ ให้ระบุเป็น
“รอจ่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์สาขา...(สาขาที่สะดวกรับ)... พร้อมรหัสไปรษณีย์” เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้บริการดังกล่าวได้ในทันที
2. บริการ SCL จาก Kerry Express - บริการ SCL หรือ Self Collection คือ บริการรับพัสดุที่สาขาของ Kerry Express โดยขั้นตอนของการใช้บริการก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่นกัน เพียงแค่เขียนที่อยู่ผู้รับเป็นชื่อสาขา Kerry Shop ที่จะเข้ารับพัสดุ จากนั้นให้ผู้ส่งแจ้งกับพนักงาน Kerry ว่าจะใช้บริการจัดส่งแบบ SCL เมื่อสินค้าส่งถึงยังสาขาปลายทาง ผู้รับจะได้รับ SMS แจ้งเตือนว่าสินค้ามาถึงเป็นที่สาขาเรียบร้อยแล้ว พร้อมข้อความหมายเลขพัสดุและ Pin Code จากนั้นให้ผู้รับนำหลักฐานดังกล่าว พร้อมบัตรประชาชนติดต่อเข้ารับพัสดุที่สาขาปลายทางได้ในทันที โดยทาง Kerry จะเก็บสินค้าไว้ที่สาขาปลายทางเป็นระยะเวลา 3 วัน ถ้าผู้รับไม่ติดต่อรับพัสดุ พนักงานจะโทร.แจ้งนัดหมายรับสินค้าอีกครั้ง และถ้าหากไม่สามารถติดต่อผู้รับได้ พัสดุดังกล่าวก็จะถูกตีกลับไปยังผู้ส่ง
บริการล็อกเกอร์อัจฉริยะ (Smart Locker)
หากไม่มีคนอยู่บ้านและเราไม่สะดวกเข้าไปรับพัสดุที่สาขาผู้ให้บริการต่าง ๆ ล่ะ ก็มีอีกหนึ่งบริการรับสินค้าที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของมาส่งแต่ไม่มีผู้รับ นั่นก็คือ “บริการล็อกเกอร์อัจฉริยะ”
ในอดีต ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะ มักนำมาใช้ในพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ในต่างประเทศ เช่น บริเวณพื้นที่สถานีขนส่งสาธารณะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้คนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะและนักท่องเที่ยวในการเก็บสัมภาระระหว่างเดินทาง ต่อมาจึงมีการนำล็อกเกอร์เหล่านี้มาผสมผสานกับบริการอื่น ๆ เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันด้านต่าง ๆ ของผู้คนมากขึ้น เช่น บริการตู้ล็อกเกอร์สำหรับซักอบรีด บริการตู้ล็อกเกอร์สำหรับรับ-คืนสินค้า
เมื่อการซื้อของออนไลน์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตผู้คน ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะสำหรับรับจดหมายหรือพัสดุ จึงเริ่มแพร่หลายมากขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยก็เริ่มนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นเรื่องของความปลอดภัยที่มั่นใจได้ว่า สินค้าของเราจะไม่สูญหายหรือชำรุดด้วยระบบความรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาหากใครจะเปิดตู้เพื่อเอาพัสดุข้างในก็ต้องใส่รหัสหรือปลดล็อกผ่านสมาร์ตโฟนด้วยคิวอาร์โค้ด (QR Code) และมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อตู้ถูกเปิดไปยังเจ้าของล็อกเกอร์ รวมทั้งตู้ยังแข็งแรงคงทนและมีหลายขนาดให้เลือกตามความต้องการ
ตัวอย่าง ผู้ให้บริการตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะ
1. บริการตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ หรือ iBox จาก ไปรษณีย์ไทย – ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะรูปแบบผสมผสานที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่สำหรับการรับ-ส่งพัสดุ หรือสิ่งของต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งพัสดุหรือสิ่งของที่มีการจัดส่งมายังตู้ iBox จะได้รับการจัดเก็บไว้ในตู้เป็นเวลา 48 ชม. หากเกินระยะเวลาดังกล่าว พัสดุของเราจะมีการส่งต่อไปยังที่ทำการไปรษณีย์ปลายทางเพื่อรอจ่าย
สำหรับผู้ที่สนใจใช้ตู้บริการ iBox ของไปรษณีย์ไทย สามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงแค่ ให้ผู้ส่งระบุที่อยู่ผู้รับเป็นสาขาตู้ iBox ที่ต้องการ (สามารถตรวจสอบจุดบริการตู้ iBox ได้ที่
http://ibox.thailandpost.co.th/) หลังจากนั้นรอรับข้อความ SMS ยืนยันจากทางไปรษณีย์ไทยว่า พัสดุมีการจัดส่งเรียบร้อยแล้วหรือไม่ เมื่อพัสดุมาถึงยังตู้ iBox ณ จุดบริการที่เราเลือก ให้ผู้รับนำบัตรประชาชนไปเสียบที่ตู้และกดรหัส OTP ที่ส่งมาที่เบอร์โทร.เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเปิดตู้ iBox เพื่อรับพัสดุได้ทันที
2. บริการ ShopBox และ MoveBox จาก Box24 – ShopBox คือ บริการตู้รับฝากสินค้าเพื่อขาชอปออนไลน์ที่ให้บริการรับฝากสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง เพียงแค่แจ้งให้ร้านค้าจัดส่งสินค้าไปยังตู้ ShopBox บริเวณที่ให้บริการ เพื่อรอให้เราเดินทางไปรับสิ่งของที่ตู้เมื่อสะดวก หรือหากร้านค้าไม่มีบริการจัดส่งไปยังตู้ ShopBox เราก็สามารถเรียกใช้บริการ MoveBox ของ Box24 เพื่อจัดส่งพัสดุไปยังตู้ล็อกเกอร์เครือข่ายของ Box24 ตามที่เรากำหนดได้ นอกจากนี้ทาง Box24 ยังให้บริการร่วมกับไปรษณีย์ไทย ในการจัดส่งพัสดุมายังตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะของ Box24 อีกเช่นกัน
แม้ในปัจจุบันตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะมีการให้บริการในพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัดอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งยังอยู่ในบางสถานที่ เช่น ศูนย์การค้า คอนโดมิเนียม สถานีรถไฟฟ้า/รถไฟใต้ดิน แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า บริการตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะในไทยจะเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของความต้องการใช้ของผู้บริโภคและจำนวนผู้ให้บริการหน้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาดนี้ รวมถึง ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะแบบซื้อขาดหรือเช่ารายเดือนเพื่อนำมาติดตั้งส่วนตัวในที่พักอาศัยก็มีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นอีกเช่นกัน
บริการตู้เช่ารับพัสดุระยะยาว
หากบริการที่กล่าวมาข้างต้นมีระยะเวลาเก็บพัสดุที่ไม่นานพอ สำหรับคนที่นาน ๆ กลับบ้านที หรือเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ บริการ “ตู้เช่ารับพัสดุระยะยาว” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
ผู้ให้บริการขนส่งอย่าง
ไปรษณีย์ไทย มีบริการตู้ไปรษณีย์เช่า หรือ P.O. Box Service ที่เปิดให้บริการเช่าตู้ทั้งแบบรายเดือนไปจนถึงรายปี ที่ไม่ว่าพัสดุจะส่งมาที่ตู้ของเรานานแค่ไหน ก็จะไม่มีการตีกลับไปยังต้นทางตามระยะเวลาที่เราเช่าตู้เอาไว้ และเราสามารถเข้าไปไขกุญแจรับพัสดุของเราเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าพัสดุจะหายไปไหน โดยสามารถติดต่อเช่าตู้ไปรณีย์ได้ที่ไปรษณีย์สาขาที่เราต้องการ หลังจากนั้นก็สามารถระบุที่อยู่ผู้รับเป็นหมายเลขตู้ไปรษณีย์และสาขาที่เราเช่าตู้ ตามด้วยรหัสไปรษณีย์ เพียงเท่านี้พัสดุของเราก็จะจัดส่งไปยังตู้ P.O. Box ที่เราเช่าไว้นั่นเอง
ที่มา DTN , Box24 , Kerry Express Thailand